บริษัทมีรายได้จากต่างประเทศ เสียภาษีอย่างไร
ในยุคโลกาภิวัตน์ที่ธุรกิจข้ามพรมแดนเป็นเรื่องปกติ บริษัทมีรายได้จากต่างประเทศ เสียภาษีอย่างไร กลายเป็นคำถามสำคัญที่ผู้ประกอบการไทยต้องเผชิญ การทำความเข้าใจเรื่องภาษีต่างประเทศไม่เพียงช่วยให้ปฏิบัติตามกฎหมายได้ถูกต้อง แต่ยังสามารถวางแผนภาษีเพื่อลดภาระภาษีได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ตามประมวลรัษฎากรของไทย บริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทยต้องเสียภาษีจากรายได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นในประเทศหรือต่างประเทศ (Worldwide Income Principle) ซึ่งหมายความว่า รายได้จากต่างประเทศ เสียภาษีอย่างไร จะต้องคำนวณและรวมเข้ากับรายได้ในประเทศเพื่อคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล
🎯 หลักการสำคัญของภาษีเงินได้ต่างประเทศ
- บริษัทไทยต้องเสียภาษีจากรายได้ทั่วโลก
- สามารถหักภาษีที่จ่ายในต่างประเทศได้ (Tax Credit)
- ต้องปฏิบัติตามข้อตกลงป้องกันภาษีซ้อน
- การยื่นแบบแสดงรายการต้องครบถ้วนถูกต้อง
- การเก็บเอกสารหลักฐานมีความสำคัญอย่างยิ่ง
การจัดการภาษีเงินได้จากต่างประเทศให้ถูกต้องนั้นต้องอาศัยความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับกฎหมายภาษีทั้งของไทยและประเทศที่ได้รับรายได้ รวมถึงข้อตกลงภาษีซ้อนระหว่างประเทศ เพื่อให้สามารถใช้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่และถูกต้องตามกฎหมาย
ประเภทของรายได้จากต่างประเทศ
การเข้าใจประเภทของรายได้จากต่างประเทศเป็นขั้นตอนแรกในการจัดการภาษีรายได้จากต่างประเทศอย่างถูกต้อง แต่ละประเภทรายได้มีวิธีการคำนวณและการปฏิบัติที่แตกต่างกัน

1. รายได้จากการประกอบธุรกิจ (Business Income)
รายได้จากการขายสินค้าหรือให้บริการในต่างประเทศ ซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทส่งออกหรือบริษัทที่ให้บริการข้ามพรมแดน:
- รายได้จากการขายสินค้า: การส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ
- รายได้จากการให้บริการ: บริการที่ให้แก่ลูกค้าต่างประเทศ
- รายได้จากการก่อสร้าง: โครงการก่อสร้างในต่างประเทศ
- รายได้จากการขนส่ง: บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
2. รายได้จากการลงทุน (Investment Income)
รายได้จากการลงทุนในต่างประเทศ ทั้งในรูปแบบของหุ้น พันธบัตร หรือการลงทุนโดยตรง:
- เงินปันผล: เงินปันผลจากบริษัทในต่างประเทศ
- ดอกเบี้ย: ดอกเบี้ยจากเงินฝากหรือพันธบัตรต่างประเทศ
- ค่าสิทธิ (Royalty): รายได้จากการให้ใช้ทรัพย์สินทางปัญญา
- กำไรจากการขายหลักทรัพย์: กำไรจากการขายหุ้นหรือหลักทรัพย์
3. รายได้อื่นๆ
รายได้อื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจข้ามพรมแดน:
- ค่าเช่า: รายได้จากการให้เช่าทรัพย์สินในต่างประเทศ
- ค่าธรรมเนียม: ค่าธรรมเนียมจากการให้บริการทางเทคนิค
- กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน: กำไรจากการแปลงสกุลเงิน
⚠️ ข้อควรระวัง
แต่ละประเภทรายได้มีอัตราภาษีและวิธีการคำนวณที่แตกต่างกัน ต้องศึกษาให้ละเอียดและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้แน่ใจว่าได้ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย
หลักการคำนวณภาษีรายได้จากต่างประเทศ
การคำนวณภาษีต่างประเทศในประเทศไทยใช้หลักการ Worldwide Income ซึ่งมีขั้นตอนและหลักการที่ชัดเจน

ขั้นตอนการคำนวณ
1. รวมรายได้ทุกประเภท
นำรายได้จากต่างประเทศทุกประเภทมารวมกับรายได้ในประเทศไทย:
- รายได้จากการประกอบธุรกิจในไทย
- รายได้จากการประกอบธุรกิจในต่างประเทศ
- รายได้จากการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
- รายได้อื่นๆ จากทุกแหล่ง
2. หักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง
หักค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและสมเหตุสมผลในการได้มาซึ่งรายได้:
- ค่าใช้จ่ายในการขายสินค้าหรือให้บริการ
- ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ
- ค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ
- ภาษีที่จ่ายในต่างประเทศ (เลือกหักเป็นค่าใช้จ่าย)
3. คำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล
คำนวณภาษีจากเงินได้สุทธิด้วยอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล:
- อัตราภาษีปกติ 20% สำหรับกำไรเกิน 300,000 บาท
- อัตราพิเศษสำหรับ SME ที่มีกำไรไม่เกิน 3 ล้านบาท
4. หักเครดิตภาษีต่างประเทศ
หักภาษีที่จ่ายในต่างประเทศเป็น Tax Credit (ถ้าเลือกวิธีนี้แทนการหักเป็นค่าใช้จ่าย):
- จำนวนเครดิตสูงสุด = ภาษีไทย × (รายได้ต่างประเทศ ÷ รายได้รวม)
- เครดิตที่ใช้ได้ = จำนวนที่น้อยกว่าระหว่างภาษีที่จ่ายจริงกับจำนวนเครดิตสูงสุด
🧮 ต้องการความช่วยเหลือในการคำนวณ?
ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีต่างประเทศของ MoAccount พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยคำนวณให้ถูกต้อง
ปรึกษาฟรีข้อตกลงป้องกันภาษีซ้อนระหว่างประเทศ
ข้อตกลงป้องกันภาษีซ้อนระหว่างประเทศ (Double Taxation Agreement - DTA) เป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดการเงินได้จากต่างประเทศ เสียภาษีเพื่อป้องกันการเสียภาษีซ้ำซ้อน

ประเทศที่ไทยมีข้อตกลงภาษีซ้อน
ประเทศไทยได้ทำข้อตกลงป้องกันภาษีซ้อนกับหลายประเทศ รวมถึง:
- ประเทศในเอเชีย: สิงคโปร์, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, อินเดีย
- ประเทศในยุโรป: อังกฤษ, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, เดนมาร์ก, เนเธอร์แลนด์, สวิตเซอร์แลนด์
- ประเทศอื่นๆ: สหรัฐอมริกา, แคนาดา, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, แอฟริกาใต้
ประโยชน์จากข้อตกลงภาษีซ้อน
1. การลดอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่าย
ข้อตกลงจะกำหนดอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายสูงสุดสำหรับรายได้แต่ละประเภท:
- เงินปันผล: ปกติ 10-15% (แทน 20-30%)
- ดอกเบี้ย: ปกติ 10-15% (แทน 15-25%)
- ค่าสิทธิ: ปกติ 5-15% (แทน 15-25%)
2. การได้รับ Tax Credit
สามารถนำภาษีที่จ่ายในต่างประเทศมาหักเป็น Tax Credit ในประเทศไทย
3. การป้องกันการเสียภาษีซ้อน
ป้องกันไม่ให้ต้องเสียภาษีจากรายได้เดียวกันในทั้งสองประเทศ
📋 เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการขอใช้สิทธิ DTA
- Certificate of Tax Residency (หนังสือรับรองการเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่เพื่อการเสียภาษี)
- แบบฟอร์มการขอใช้สิทธิตามข้อตกลงภาษีซ้อน
- เอกสารแสดงรายได้และภาษีที่จ่ายในต่างประเทศ
- หลักฐานการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย
การยื่นแบบแสดงรายการและเอกสารประกอบ
การยื่นแบบแสดงรายการสำหรับภาษีเงินได้ต่างประเทศมีความซับซ้อนมากกว่าการยื่นแบบปกติ เนื่องจากต้องรายงานรายละเอียดของรายได้และภาษีที่จ่ายในต่างประเทศ

แบบฟอร์มที่ต้องยื่น
1. แบบ ภ.ง.ด.50 (แบบแสดงรายการเงินได้เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล)
แบบฟอร์มหลักสำหรับการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งต้องแสดงรายได้จากต่างประเทศแยกต่างหาก
2. แบบ ภ.ง.ด.54 (แบบรายงานการจ่ายเงินได้ให้แก่ผู้ไม่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย)
สำหรับรายงานการจ่ายเงินให้กับบุคคลหรือนิติบุคคลต่างประเทศ
3. แบบรายงานเพิ่มเติมสำหรับรายได้ต่างประเทศ
แบบฟอร์มพิเศษสำหรับรายงานรายละเอียดของรายได้และภาษีต่างประเทศ
เอกสารประกอบที่จำเป็น
- หลักฐานรายได้: ใบกำกับภาษี ใบเสร็จ สัญญา
- หลักฐานการจ่ายภาษีในต่างประเทศ: Tax Certificate, Withholding Tax Statement
- เอกสารจากธนาคาร: Bank Statement, Foreign Exchange Transaction
- เอกสารทางกฎหมาย: Certificate of Tax Residency, Tax Treaty Claim Form
- งบการเงิน: งบการเงินที่ผ่านการตรวจสอบ
⏰ กำหนดเวลาสำคัญ
- ยื่นแบบ ภ.ง.ด.50: ภายใน 150 วันนับจากวันสิ้นสุดรอบบัญชี
- ยื่นแบบ ภ.ง.ด.54: ภายใน 7 วันนับจากวันที่จ่ายเงิน
- ขอใช้สิทธิตาม DTA: ก่อนหรือในขณะที่ยื่นแบบแสดงรายการ
กรณีศึกษาและตัวอย่างการคำนวณ
เพื่อให้เข้าใจการจัดการรายได้จากต่างประเทศ ไม่เสียภาษีและการคำนวณภาษีอย่างถูกต้อง ลองมาดูตัวอย่างกรณีศึกษาจริง

กรณีศึกษาที่ 1: บริษัทส่งออก
สถานการณ์: บริษัท ABC จำกัด เป็นบริษัทผลิตและส่งออกเสื้อผ้าไปยังสหรัฐอมริกา
ข้อมูลทางการเงิน:
- รายได้จากการขายในประเทศ: 10,000,000 บาท
- รายได้จากการส่งออกไปสหรัฐฯ: 15,000,000 บาท
- ต้นทุนขายรวม: 18,000,000 บาท
- ค่าใช้จ่ายในการบริหาร: 3,000,000 บาท
- ภาษีที่จ่ายในสหรัฐฯ: 300,000 บาท
การคำนวณ:
- รายได้รวม = 10,000,000 + 15,000,000 = 25,000,000 บาท
- ค่าใช้จ่ายรวม = 18,000,000 + 3,000,000 = 21,000,000 บาท
- เงินได้สุทธิ = 25,000,000 - 21,000,000 = 4,000,000 บาท
- ภาษีเงินได้นิติบุคคล = 4,000,000 × 20% = 800,000 บาท
- Tax Credit สูงสุด = 800,000 × (15,000,000 ÷ 25,000,000) = 480,000 บาท
- Tax Credit ที่ใช้ได้ = 300,000 บาท (น้อยกว่า 480,000)
- ภาษีที่ต้องจ่าย = 800,000 - 300,000 = 500,000 บาท
กรณีศึกษาที่ 2: บริษัทรับเงินปันผลจากต่างประเทศ
สถานการณ์: บริษัท XYZ จำกัด ได้รับเงินปันผลจากบริษัทลูกในสิงคโปร์

ข้อมูลทางการเงิน:
- รายได้จากการประกอบธุรกิจในไทย: 8,000,000 บาท
- เงินปันผลจากสิงคโปร์: 2,000,000 บาท
- ภาษีหัก ณ ที่จ่ายในสิงคโปร์: 100,000 บาท (5%)
- ค่าใช้จ่ายรวม: 7,000,000 บาท
การคำนวณ:
- รายได้รวม = 8,000,000 + 2,000,000 = 10,000,000 บาท
- เงินได้สุทธิ = 10,000,000 - 7,000,000 = 3,000,000 บาท
- ภาษีเงินได้นิติบุคคล = 3,000,000 × 20% = 600,000 บาท
- Tax Credit สูงสุด = 600,000 × (2,000,000 ÷ 10,000,000) = 120,000 บาท
- Tax Credit ที่ใช้ได้ = 100,000 บาท
- ภาษีที่ต้องจ่าย = 600,000 - 100,000 = 500,000 บาท
💼 ต้องการวิเคราะห์กรณีของคุณ?
แต่ละบริษัทมีสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อการวางแผนที่เหมาะสม
ปรึกษาเคสของคุณบริการด้านภาษีต่างประเทศจาก MoAccount
MoAccount เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีต่างประเทศที่มีประสบการณ์กว่า 15 ปีในการให้คำปรึกษาและจัดการภาษีสำหรับบริษัทที่มีรายได้จากต่างประเทศ

บริการของเรา
1. ให้คำปรึกษาด้านภาษีต่างประเทศ
- วิเคราะห์สถานการณ์ภาษีและความเสี่ยง
- แนะนำการใช้สิทธิตามข้อตกลงภาษีซ้อน
- วางแผนภาษีเพื่อลดภาระภาษีอย่างถูกกฎหมาย
- ให้คำปรึกษาเรื่องโครงสร้างธุรกิจระหว่างประเทศ
2. จัดทำและยื่นแบบแสดงรายการ
- จัดทำแบบ ภ.ง.ด.50 พร้อมรายละเอียดรายได้ต่างประเทศ
- ยื่นแบบ ภ.ง.ด.54 สำหรับการจ่ายเงินให้ต่างประเทศ
- เตรียมเอกสารประกอบครบถ้วน
- ติดตามสถานะและตอบข้อซักถามจากกรมสรรพากร
3. การขอใช้สิทธิตามข้อตกลงภาษีซ้อน
- ขอหนังสือรับรองการเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่เพื่อการเสียภาษี
- จัดทำเอกสารการขอใช้สิทธิ Tax Treaty
- ประสานงานกับหน่วยงานในต่างประเทศ
- ติดตามผลการอนุมัติและการได้รับเครดิตภาษี

ทำไมต้องเลือก MoAccount?
- ทีมผู้เชี่ยวชาญ: นักบัญชี CPA และผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีต่างประเทศ
- ประสบการณ์: มีประสบการณ์กว่า 15 ปีในการจัดการภาษีข้ามพรมแดน
- ความรู้ทันสมัย: อัปเดตกฎหมายและข้อตกลงภาษีซ้อนใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ
- เครือข่ายระหว่างประเทศ: มีพันธมิตรในหลายประเทศเพื่อการให้บริการที่ครบวงจร
- เทคโนโลยี: ใช้ระบบคำนวณและรายงานที่ทันสมัย
ขั้นตอนการให้บริการ
- ประเมินสถานการณ์: วิเคราะห์รายได้และภาษีปัจจุบัน
- วางแผน: จัดทำแผนการจัดการภาษีที่เหมาะสม
- ดำเนินการ: จัดทำเอกสารและยื่นแบบแสดงรายการ
- ติดตาม: ติดตามผลและให้คำปรึกษาต่อเนื่อง
- รายงานผล: รายงานผลและให้คำแนะนำสำหรับปีต่อไป
การจัดการภาษีรายได้จากต่างประเทศที่ถูกต้องไม่เพียงช่วยให้ปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ยังสามารถประหยัดภาษีได้อย่างมาก MoAccount พร้อมเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้ในการช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดโลก